ถ้าอักษรตัวแรกในชื่อของคุณ คือ

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพราะอะไร...ผู้ชายถึงชอบซ่อนความรู้สึก











 เป็นที่รู้กันว่าบรรดาคุณผู้ชายชอบซ่อนความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก หรือเรื่องราวทั่วไปเกี่ยวกับตัวตนของเขา อย่างความฝัน ความหวัง ความกลัว ฯลฯ ที่ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ไม่ค่อยพูดหรือแสดงออกให้รู้ ว่าแต่เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการซ่อนความรู้สึกเหล่านี้มีอะไรบ้าง ลองไปเปิดประตูอ่านใจเขาดูกันดีกว่าค่ะ..
 
 1. การเปิดเผยความรู้สึกทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย

          ผู้ชายรู้สึกลังเลที่จะเปิดเผยเรื่องความรู้สึกให้ใครได้รู้ เพราะการเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ก็เหมือนกับการบอกจุดอ่อนให้คนอื่นรู้ ซึ่งอาจกลายเป็นผลร้ายต่อตัวเขาเองได้
 
 2. ผู้ชายอ่อนไหวน้อยกว่าผู้หญิง

          ในขณะที่ผู้หญิงพร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องความรู้สึกต่าง ๆ ของตัวเอง ให้กับชายคนรักฟังได้อย่างไม่ลังเล แต่ในทางกลับกันฝ่ายชายกลับรู้สึกไม่สะดวกใจ หากจะต้องพูดเรื่องความในใจให้ใครฟัง แม้กระทั่งคนรักของตัวเอง และหากเป็นไปได้ก็ขออยู่อย่างสงบ เลี่ยงไม่คุยเรื่องที่จะเข้าประเด็นเปิดใจแบบนี้ดีกว่า
 
 3. กลัวถูกมองว่าไม่แมน

          บางครั้งพวกผู้ชายก็อดจะรู้สึกไม่ได้ว่า การเปิดใจคุยเรื่องความรู้สึกต่าง ๆ จะทำให้เขาดูหยุมหยิม อ่อนไหว เปราะบาง ไม่แมนสมชาย เขาจึงไม่ชอบบอกเล่าเรื่องราวเช่นนี้ให้ใครฟัง 
 
 4. ต้องการความรู้สึกแข็งแกร่ง

          เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณผู้ชายต้องการรู้สึกแข็งแกร่ง เป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อใคร อย่างที่บอกว่าการเปิดเผยเรื่องภายในใจ ก็เท่ากับเป็นการบอกจุดอ่อนของตัวเอง ทำให้คนอื่นเข้ามาทำลายความแข็งแกร่งที่เขาพยายามสร้างขึ้นมาได้ เขาจะกลายเป็นคนอ่อนแอ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ผู้ชายจึงมักจึงอมพะนำความรู้สึกตัวเองไว้ไม่ให้ใครรู้
 
 5. ไม่ยอมปริหากหากไม่เชื่อใจ 

          สำหรับคุณผู้ชาย อย่าหวังให้เขาคายความรู้สึกใด ๆ ออกมาให้ใครได้รู้ หากเขาไม่รู้สึกสนิทใจกับคนนั้นจริง ๆ แม้แต่คนที่เขากำลังจีบอยู่ ถ้ายังไม่ถึงขั้นคบกันจนมั่นใจ ก็อย่าหวังว่าจะได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาเลย
 
 6. ขอรับรู้ความรู้สึกคนอื่นก่อน

          ผู้ชายจะไม่ยอมเปิดเผยความรู้สึกกับใครก่อน จนกว่าจะได้รับรู้ความรู้สึกจากฝ่ายตรงข้าม และรู้สึกมั่นใจจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายเปิดเผยและจริงใจกับเขาแน่แล้ว
 
 7. กลัวไม่เป็นที่ยอมรับ

          ผู้ชายจะไม่เปิดเผยตัวตนของตัวเองหากไม่จำเป็น เพราะเขาไม่รู้ว่าหากได้เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกไปแล้ว ผลตอบรับจะเป็นอย่างไร จะได้รับการยอมรับหรือไม่ เพื่อรักษาความรู้สึกมั่นคงของตัวเอง เขาจึงไม่คิดจะแบความรู้สึกของตัวเองให้ใครได้รู้ได้เห็นง่าย ๆ
 
          การจะให้คุณผู้ชายพูดเรื่องความรู้สึก หรือความอ่อนไหวออกมาดูท่าจะเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้น หากหนุ่มของคุณ หรือเพื่อนชายที่คุณสนิทสนมด้วย กล้าเปิดใจพูดคุยเรื่องความรู้สึกของเขาให้คุณฟัง ก็ขอให้รักษาความรู้สึกและความเชื่อใจของเขาเอาไว้ให้ดีเชียว เพราะนั่นแสดงว่าคุณคงเป็นคนที่เขาสำคัญต่อเขาน่าดูทีเดียวล่ะ :)




http://women.kapook.com/view32887.html

6 เรื่อง ที่คุณผู้ชายอยากให้ผู้หญิงรู้


6 เรื่อง ที่คุณผู้ชายอยากให้ผู้หญิงรู้



           แม้จะเห็นผู้ชายเป็นคนดูแข็ง ๆ ท่าทางไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องราวอะไรมากนัก น่าจะเป็นคนยังไงก็ได้ แต่ความจริงแล้วคุณผู้ชายเองก็รู้สึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับที่ผู้หญิงอย่างเรารู้สึกเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเขาไม่แสดงออก หรือพูดออกมา (ดัง ๆ) ให้เราได้ยินก็เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ทำให้เขาเสียความรู้สึกโดยไม่ตั้งใจ และเพื่อให้รู้ทันอารมณ์ของเขา ลองมาดูเรื่องที่คุณผู้ชายอยากให้ผู้หญิงรู้ โดยที่เขาไม่ต้องบอกกันดีกว่าค่ะ...
 
 1. ผู้ชายก็ต้องการรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญ

           จำได้ไหมว่าอะไรที่ทำให้คุณรักเขา ลองนั่งนึกถึงสิ่งที่เขาเป็น และทำให้คุณรู้สึกอยากอยู่กับเขาขึ้นมาสัก 10 อย่าง แล้วบอกให้เขารู้ ผู้ชายแม้จะดูแข็ง ๆ ทื่อ ๆ เหมือนไม่ค่อยใส่ใจจะรับรู้อะไรเท่าไหร่ แต่เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันนะว่า อะไรที่ทำให้เขาเป็นคนสำคัญสำหรับคนที่เขารัก และนั่นจะทำให้เขารู้สึกดีมากเลยทีเดียว

 2. ผู้ชายก็ต้องการการให้เกียรติ

           ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องการได้รับการให้เกียรติ แม้จะเป็นกับคนใกล้ชิดสนิทสนมอย่างคนรักกัน เขาก็ไม่อยากโดนคนรักวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินใจการกระทำของเขาด้วยตรรกะของเธอ นอกจากนี้อย่าฉีกหน้าเขาท่ามกลางสาธารณะชน แม้จะเป็นเรื่องที่คุณคิดว่าเล็กนิดเดียวก็ตามที อย่างที่เรารู้กันดีว่าสำหรับผู้ชายแล้ว เรื่องเกียรติยศศักศรีดิ์เป็นเรื่องที่ลงให้กันไม่ได้จริง ๆ

 3. ผู้ชายก็ชอบฟังคำหวาน ๆ

           แม้จะเป็นเพศชายแต่ก็ใช่ว่าเขาจะชอบให้คนมาพูดจาแข็งกระด้างด้วย หลาย ๆ ครั้งผู้หญิงก็ลืมเติมคำหวาน ๆ ลงไปเมื่อพูดกับเขา เช่น การขอร้องให้เขาทำอะไรให้สักอย่าง ลองเปลี่ยนคำพูดจาก "ขอแบบนั้นนะ" ... "ทำอย่างงี้สิ" มาเป็น "ฉันชอบเวลาคุณทำอย่างนั้นจัง คราวนี้ลองแบบนี้..ดูได้ไหม" หรือ " ฉันรู้ว่าคุณจะทำมันได้ดี ช่วย..หน่อยได้ไหม" เปลี่ยนคำพูดที่สื่อความทางเดียวกันให้อ่อนหวานขึ้น ทำได้ง่าย ๆ นิดเดียวเท่านั้น และรับรองว่าพอได้ฟังคำหวาน ๆ แบบนี้ เขาก็พร้อมทำตามอย่างที่สาว ๆ ขอแน่นอน

 4. ผู้ชายร้อยละ 80 อารมณ์ขึ้นเมื่อผู้หญิงเองก็แรงใส่

           แม้จะถูกสอนและปลูกฝังมาว่าต้องอ่อนโยนกับเพศหญิง แต่จากการสำรวจกลับพบว่าผู้ชายถึงร้อยละ 80 มักจะอารมณ์ขึ้นเช่นกัน เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มใส่อารมณ์ในการพูดคุย เพราะฉะนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะคารมรุนแรง ฝ่ายหญิงเองก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้เช่นกัน จะแรงใส่แล้วให้ผู้ชายต้องอดทนกับเราแต่เพียงฝ่ายเดียวคงไม่ได้

 5. ผู้ชายมีความอดทนในการฟังต่ำ

           ผู้ชายมีความอดทนในการฟังเรื่องราวต่าง ๆ เพียง 2-3 นาทีเท่านัน เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการสื่อสารกับเขาอย่างมีประสิทธิภาพ ขมวดเรื่องราวให้กระชับ ตรงประเด็น และได้ใจความมากที่สุด ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ต้องการบอกให้เขารับทราบอาจตกหล่นไปได้ แล้วก็จะกลายเป็นคุณเองที่หงุดหงิดว่าเขาไม่สนใจฟัง และอาจนำมาซึ่งการทะเลาะกันได้นะคะ

 6. ผู้ชายชอบการแข่งขัน

           โดยสัญชาติญาณเพศชายเป็นเพศที่ชอบการแข่งขัน จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นหนุ่ม ๆ ชอบเล่นกีฬา ด้วยเหตุผลหนึ่งที่ว่าความรู้สึกได้เป็นผู้ชนะยังทำให้เขารื่นเริงเบิกบาน และเมื่อมันมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างสองคน ความรู้สึกว่าได้เป็นผู้ชนะก็ยังทำให้เขารู้สึกดีได้เช่นกัน ไม่ใช่เอาชนะคุณแต่เป็นการเอาชนะใจคุณ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกพอใจได้ เมื่อนั้นคือเวลาที่เขารู้สึกว่าล้มเหลว ส่วนเวลาที่เขาทำให้คุณพอใจ ยิ้ม หรือหัวเราะได้ นั่นคือชัยชนะของเขาในฐานะคนรัก เพราะฉะนั้น เมื่อเขาทำให้คุณรู้สึกดีได้ การให้รางวัลตอบแทนเขาเล็ก ๆ น้อย จะทำให้เขารู้สึกว่าว่าการแข่งขันครั้งนี้ของเขามีคุณค่า และอยากจะพยายามในครั้งต่อ ๆ ไปอีกแน่นอน

           ถึงจะเป็นผู้ชาย...แต่เรื่องความรู้สึกของเขาก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่แพ้ผู้หญิงเหมือนกันนะคะ เพราะฉะนั้น เรื่องที่เราพอจะเดาทาง เพื่อเอาใจเขาได้ถูกก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ รับรองว่าคุณผู้ชายจะต้องชอบใจที่สาว ๆ ทำตัวได้น่ารักถูกใจโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยปากแน่นอน


http://women.kapook.com/view32707.html

แอบเหงา ^^